Saturday, January 24, 2009

เทศกาลงานเผา

มันมาอีกแล้ว ช่วงเวลานั้นของปี ดูเหมือนธีร์จะยังไม่รู้สึกถึงฤทธิ์ของมันเท่าไหร่นัก ถึงจะมีกำหนดส่งเปเปอร์อันยังไม่ได้เขียนในเร็ววันข้างหน้านี้ก็เถอะ แต่คงเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังไม่ขาดสายของเพื่อนๆ ร่วมชะตากรรมเดียวกันในการปั่นงานส่งก่อนปิดภาคเรียน เลยรู้สึกว่าได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในหลากหลายคณะในนานามหาวิทยาลัย เพราะแน่นอนงานของเขาต้องสนุกกว่างานของเรา

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วที่จะหันมาปั่นงานของตัวเอง เริ่มด้วยการเขียนเปเปอร์ส่งงาน JCSSE 2009 เพราะถึงแม้จะมองว่าโปรเจคที่กำลังทำอยู่นั้นไม่ค่อยบัลลือโลกนัก อาจารย์คงเล็งเห็นประกายเม็ดเพชรอันฝังลึกในแก่นของงาน เป็นเหตุให้งานเข้าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยไม่อาจไปดิ้นได้ที่ใดนอกจากหน้าคอมของตนเอง

เลยขอเกริ่นถึงโปรเจคจบมหาโหดที่เลื่องลือกันตั้งแต่เมื่อคราวยังหน้าใส ว่าเป็นงานในรูปแบบศิลปะปฏิสัมพันธ์

ศิลปินบางกลุ่ม มักไม่ต้องการให้ข้อกำจัดของชุดคำสั่งตีกรอบจินตานาการและความต้องการทางศิลปะ แต่เหนือไปกว่านั้น มักลงมือพัฒนาชุดคำสั่งเพื่อทลายกำแพงนั้นและเปิดช่องทางทัศนศิลป์ใหม่ๆ ด้วยตนเอง เรียกได้ว่าบุคคลเหล่านี้เคยจัดเป็นแกะดำของระบบวิชาการที่มักจะสร้างเส้นแบ่งอันชัดเจนระหว่างวิทย์และศิลป์ กระทั่งปัจจุบัน ยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศและจินตนาการของสังคมที่ถูกเชื่อมต่อ ก่อให้เกิดการรุกล้ำเขตแดนวิทยาศาสตร์ด้วยงานออกแบบซึ่งแหกกฎศิลปินเดิมๆ

ผู้เขียนต้องขออภัยศิลปินแขนงอื่นๆ ไว้ ณ ที่นี้ก่อนกล่าวว่า ศิลปะแห่งยุคสมัยปัจจุบัน ไม่อาจหนีพ้นคำว่า “ปฏิสัมพันธ์” นั้นก็ด้วยเหตุที่เหลือ เพียงเส้นแบ่งขุ่นๆ ระหว่างวิทยาศาสตร์และศิลปะ เทคโนโลยีได้รุกล้ำเข้ามามีส่วนร่วมในชิ้นงานทางศิลปะอย่างมหาศาล และในยุคสมัยที่มุ่งให้ทุกข้อจำกัดอยู่แค่เพียงจินตนาการนั้น สมควรแล้วที่งานศิลปะจะสามารถหลอมรวมความคิดจากแหล่งที่หลากหลาย โดยไม่อาจเป็นเพียงจินตนาการของศิลปินและผู้ร่วมปฏิสัมพันธ์เท่านั้น แต่ข้อมูลวัตถุซึ่งมีความแปรเปลี่ยนอยู่ตลอด ก็สามารถมาร่วมแสดงตนในรูปแบบที่แตกต่าง นับได้ว่าศิลปะบัดนี้คือศิลปะซึ่งแปรเปลี่ยนทุกๆ สัญญาณนาฬิกาด้วยตัวแปรแห่งชุดคำสั่ง

ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน สะพานระหว่างสมองซีกสร้างสรรค์และซีกคำนวณถูกพัฒนาต่อประสานไปมาก และได้เปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลใหม่ๆ ได้ร่วมแสดงความสร้างสรรค์ในการออกแบบและคำนวณชิ้นงานศิลปะด้วยเทคโนโลยี รวมถึงเป็นเหตุผลและที่มาของโครงงานนี้ ซึ่งผู้จัดทำต้องการสร้างจุดหลอมระหว่างความคิดทางการออกแบบชุดคำสั่งซึ่งอาศัยการคิดคำนวณ และความคิดทางการออกแบบงานศิลปะซึ่งอาศัยจินตนาการอันสร้างสรรค์ เพ่ือร่วมแสดงความเป็นเอกภาพของทั้งสองซีก

อันที่จริงแล้วอยากเอางานเท่าที่ทำมามาแปะไว้ให้ดู แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ ยังหาทางส่งออกมาในรูปแบบ Applet ที่ใช้งานอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้ จึงต้องทิ้งเพียงโปสเตอร์ Proposal ไว้เท่านี้ก่อน

Senior Project Poster

2 comments:

  1. Anonymous25/1/09 00:29

    เพราะว่าธีรกิตทำ

    มันเรยออกมาแบบธีรกิต

    ดูเป็นธีรกิต

    ธีรกิต
    +
    ศิลปะ

    ธีรศิลป์!!

    แต่ก้อนะ
    ทำงานๆๆอย่างเดียวไม่พอ
    หาเวลาออกมา กินคาราเมลบ้างหล่ะ
    จะได้ไม่เครียดด




    TM

    ReplyDelete
  2. สู้ๆจะคัฟพี่ธี

    โบ้เอาใจช่วย

    อิอิ

    ของตัวเองก้อแหกเหมือนกัน

    สู้ๆ

    ReplyDelete